เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๖ นางสาวประภาวดี บุญช่วยเกื้อกูล กงสุล ได้เป็นผู้แทนสถานกงสุลใหญ่ ณ นครมิวนิกเข้าร่วมงาน “ลอยกระทง ของสมาคมไทยอาสา” ณ ที่ทำการสมาคมไทยอาสา นครมิวนิก

ภายในงานดังกล่าว เยาวชนลูกครึ่งไทย-เยอรมันและผู้ปกครองที่เข้าร่วมงานกว่า 40 คน ได้ร่วมกันเรียนรู้ประวัติของประเพณีลอยกระทงของไทยซึ่งเป็นประเพณีโบราณอันดีงามของชาวไทยที่ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่สมัยสุโขทัย ร่วมทำกระทงจากวัสดุที่ย่อยสลายได้เพื่อแสดงความเคารพต่อสายน้ำและปลูกฝังการอนุรักษ์ธรรมชาติ นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมการละเล่นแบบไทย เช่น มอญซ่อนผ้า ใบ้คำภาษาไทยและแสดงนาฏศิลป์ไทยโดยนักเรียนโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมไทยของสมาคมฯ ควบคู่ไปกับการบรรเลงเครื่องดนตรีไทย (ขิม และฉิ่ง) โดยครูอาสาจากวัดไทยมิวนิค กีซื่ง กิจกรรมต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้ว สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจระหว่างชุมชน และวัดไทยในต่างประเทศ เพื่อร่วมกับสืบสานประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของไทยให้แก่เยาวชนรุ่นใหม่ที่เติบโตในต่างแดนด้วย

อนึ่ง ในปี 2567 รัฐบาลไทยมีแผนจะเสนอให้องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO พิจารณาประกาศขึ้นทะเบียนให้ “ประเพณีลอยกระทง” เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ

สมาคมไทยอาสา เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ได้รับการสนับสนุนจาก Federal Office for Migration and Refugees-BAMF ของรัฐบาลเยอรมนี ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 2006 เพื่อช่วยเหลือคนไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเมืองมิวนิกและเมืองใกล้เคียงให้ปรับตัวเข้ากับสังคมและวัฒนธรรมเยอรมันได้อย่างมีความสุข โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ หลากหลาย  เช่น การสอนภาษาเยอรมันและให้ความรู้พื้นฐานที่จำเป็นเพื่อการใช้ชีวิตในเยอรมนีให้กับคนไทยและชาวต่างชาติที่เพิ่งย้ายมาพำนักอาศัยในเยอรมนี  และการสอนภาษาไทยเพื่อเผยแพร่ภาษาและวัฒนธรรมไทยให้แก่คนเยอรมันและเยาวชนลูกครึ่งไทย

การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนไทยในรัฐไบเอิร์น และรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค การส่งเสริมการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยให้แก่ชาวต่างชาติ รวมถึงการปลูกฝังความรักและรู้จักสืบสานวัฒนธรรมไทยซึ่งเป็นอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของคนไทยในต่างแดน เป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครมิวนิก มุ่งมั่น ปฏิบัติและใส่ใจผลักดันอย่างเต็มที่เพื่อสนับสนุนให้คนไทยในเยอรมนีสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข มีเกียรติ และศักดิ์ศรี รวมทั้งช่วยส่งเสริมบทบาทของชุมชนไทย ในการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมที่งดงามสู่สายตาชาวต่างชาติ  พร้อมทั้งรักษาประเพณีอันดีงามไว้ให้แก่เยาวชนคนรุ่นหลังต่อไป