เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 นางสาวกนกพร ควรคิด รองกงสุลใหญ่ ณ นครมิวนิก เป็นผู้แทนสถานกงสุลใหญ่ฯ เข้าร่วมให้กำลังใจและเยี่ยมชมผลงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรมของนักวิจัยและนักประดิษฐ์ไทยที่นำมาจัดแสดงและเข้าร่วมประกวดในงาน The International Trade Fair – Ideas, Inventions and New Products (iENA 2025) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1–3 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์แสดงสินค้า NürnbergMesse เมืองเนิร์นแบร์ก รัฐไบเอิร์น สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ตามคำเชิญของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยมี ดร. วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ให้การต้อนรับ

ในปีนี้ วช. ได้นำนักประดิษฐ์และนักวิจัยไทยกว่า 70 คน จากสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และรัฐวิสาหกิจ อาทิ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เข้าร่วมจัดแสดงและประกวดผลงานนวัตกรรมในหลากหลายสาขา อาทิ วิศวกรรมไฟฟ้า เคมีและโลหะวิทยา วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ สิ่งทอ การวิจัยทางการศึกษา วิศวกรรมโยธา การขนส่ง บริการ และผลิตภัณฑ์เพื่อความเป็นอยู่ของมนุษย์ ภายในงานยังมีการสัมภาษณ์คณะนักวิจัยและนักประดิษฐ์ไทย เพื่อเผยแพร่แนวคิดการพัฒนาผลงานและประชาสัมพันธ์ศักยภาพของนักประดิษฐ์ไทยต่อผู้เข้าชมนิทรรศการจากนานาประเทศ ซึ่งสะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์และมาตรฐานของผลงานไทยในเวทีนานาชาติ

งาน iENA 2025 มีผู้จัดแสดงสิ่งประดิษฐ์เข้าร่วมกว่า 274 ราย จากกว่า 21 ประเทศและภูมิภาค และมีสิ่งประดิษฐ์จัดแสดงมากกว่า 540 ชิ้น ถือเป็นเวทีนานาชาติด้านสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมที่มีประวัติยาวนานที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป ซึ่งจัดต่อเนื่องมายาวนานกว่าเจ็ดทศวรรษ โดยเริ่มจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2491 (ค.ศ. 1948) ณ เมืองเนิร์นแบร์ก ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท AFAG Messen und Ausstellungen GmbH บริษัทเอกชนเยอรมันผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการระดับนานาชาติ ซึ่งได้พัฒนางาน iENA ให้เป็นเวทีสำคัญสำหรับนักประดิษฐ์จากทั่วโลก ทั้งในมิติของการนำเสนอผลงาน การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และการจับคู่ธุรกิจด้านสิทธิบัตรและนวัตกรรม ทั้งนี้ งาน iENA มีบทบาทสอดคล้องกับนโยบายของไทยในการส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมและความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศ

ในโอกาสนี้ นางสาวกนกพร ควรคิด รองกงสุลใหญ่ฯ ได้ยืนยันถึงความพร้อมของสถานกงสุลใหญ่ ณ นครมิวนิก ในการสนับสนุนการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และส่งเสริมความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมระหว่างไทยกับเยอรมนี เพื่อเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศในอนาคต