กงสุลใหญ่ ณ นครมิวนิก หารือข้อราชการกับ กงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองชตุทท์การ์ท เพื่อพัฒนางานกงสุลและงานดูแลผลประโยชน์คนไทยในรัฐบาเดิน - เวือร์ทเทมแบร์ก

กงสุลใหญ่ ณ นครมิวนิก หารือข้อราชการกับ กงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองชตุทท์การ์ท เพื่อพัฒนางานกงสุลและงานดูแลผลประโยชน์คนไทยในรัฐบาเดิน - เวือร์ทเทมแบร์ก

วันที่นำเข้าข้อมูล 14 เม.ย. 2564

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 26 พ.ย. 2565

| 696 view

เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2564 กงสุลใหญ่ ณ นครมิวนิก ได้พบหารือข้อราชการกับนางมารีอันเน ซอร์น (Mrs. Marianne Zorn) กงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองชตุทท์การ์ท ณ สถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมือง ชตุทท์การ์ท โดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ของรัฐฯ อย่างเคร่งครัด ประเด็นสำคัญที่ทั้งสองได้หารือร่วมกัน ประกอบด้วย (1) สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และผลกระทบต่อชุมชนไทยในรัฐบาเดิน – เวือร์ทเทมแบร์ก ตลอดจนโครงการให้ความช่วยเหลือชุมชนไทยและวัดไทยของสถานกงสุลใหญ่ ณ นครมิวนิก (2) การให้ความช่วยเหลือนักเรียน – นักศึกษาไทย และสมาคม Deutsch – Thailändischer Förderverein für Bildung und Kultur e.V.”  ซึ่งเป็นโครงการให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษาแก่นักเรียนไทยที่กงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองชตุทท์การ์ท เป็น  ผู้อุปถัมภ์ (4) การผลักดันความร่วมมือภาคประชาชนและภาคเอกชนของไทยกับรัฐบาเดิน – เวือร์ทเทมแบร์ก (5) การจะเกษียณอายุของนางมารีอันเน ซอร์น และการเตรียมสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองชตุทท์การ์ท คนใหม่ ตลอดจน (6) การยุติอำนาจการตรวจลงตราและนิติกรณ์ และการเก็บค่าธรรมเนียมในการให้บริการทางกงสุลของกงสุลกิตติมศักดิ์ฯ ตามระเบียบกงสุลกิตติมศักดิ์ฯ แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2563 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 ด้วย

อนึ่ง นับตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป อำนาจการตรวจลงตราและนิติกรณ์ และการเก็บค่าธรรมเนียมในการให้บริการทางกงสุล จะขึ้นอยู่กับ 3 สำนักงานของไทยในสหพันธ์ฯ ได้แก่ (1) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน (2) สถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต และ (3) สถานกงสุลใหญ่ ณ นครมิวนิก

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ