บริการประชาชน
บริการประชาชน
วันที่นำเข้าข้อมูล 15 ก.พ. 2564
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565
ชาวเยอรมันที่มีภูมิลำเนาในประเทศเยอรมนีประสงค์จะรับเด็กไทยเป็นบุตรบุญธรรม (ไม่ว่าจะเป็นเด็กจากบ้านเด็กกำพร้า หรือ เด็กที่เป็นลูกติดของคู่สมรสตนเอง หรือ เด็กที่เป็นหลานของคู่สมรสตนเอง) ควรยื่นคำขอต่อสำนักงานคุ้มครองเด็กและเยาวชนประจำรัฐที่ตนมีภูมิลำเนา หรือหน่วยงานอื่น ๆ หรือองค์การสวัสดิภาพเด็กที่รัฐบาลของประเทศเยอรมนีแต่งตั้งให้ดำเนินการเพื่อให้มีการรับเด็กเป็น บุตรบุญธรรมระหว่างประเทศ โดยควรติดต่อไปยังกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปพร้อมกันด้วย
ติดต่อส่วนราชการไทยและเยอรมันได้ที่:
ประเทศไทย
ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม (Child Adoption Centre)
กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
255 ถนนราชวิถี
กรุงเทพฯ 10400
โทร: +66 (0) 2 354-7509, +66 (0) 2 354-7515, +66 (0) 2 644-7996
แฟกซ์: +66(0)2 354-7511
อีเมล: [email protected]
เว็บไซต์: www.adoption.dsdw.go.th
ประเทศเยอรมนี
ศูนย์อำนวยการขอรับเด็กต่างชาติเป็นบุตรบุญธรรมกลางเยอรมนี
(Bundeszentralstelle für Auslandsadoption – Generalbundesanwalt)
Adenauer Allee 99 – 103, 53113 Bonn
โทร: +49 (0) 228-99-4100–5414, 5415
แฟกซ์: +49 (0) 228-99-410 – 5402
อีเมล์: [email protected]
เว็บไซต์: www.bundesjustizamt.de (Bundesamt für Justiz)
คลิกหัวข้อ “Zivilrecht” เพื่ออ่านข้อมูลการรับเด็กต่างชาติเป็นบุตรบุญธรรม
การรับเด็กไทยหรือบุคคลสัญชาติไทยเป็นบุตรบุญธรรม
ก. หลักเกณฑ์และคุณสมบัติในการรับบุตรบุญธรรม
ข. การเตรียมเอกสารเพื่อดำเนินการขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม
ค. การนำส่งคำร้องขอพร้อมเอกสารประกอบ
ง. ขั้นตอนการดำเนินเรื่องในประเทศไทย
จ. สิทธิและหน้าที่ของบุตรบุญธรรม
ฉ. สิทธิและหน้าที่ของบิดามารดาบุญธรรม
ช. การเลิกรับบุตรบุญธรรม
ซ. กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ญ. หมายเหตุ
ก. หลักเกณฑ์และคุณสมบัติในการรับบุตรบุญธรรม
ข. การเตรียมเอกสารเพื่อดำเนินการขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม
เอกสารที่ฝ่ายผู้ขอรับเด็กต้องเตรียมที่ประเทศเยอรมนี ขอแนะนำให้ผู้ประสงค์ขอรับเด็กไทยเป็นบุตรบุญธรรมติดต่อผ่านสำนักงานคุ้มครองเด็กและเยาวชนประจำรัฐที่ผู้ขอมีภูมิลำเนาอยู่ (Landesjugendamt) เพื่อประโยชน์ในการขอรับการตรวจลงตราเข้าประเทศเยอรมนีให้กับเด็กที่จะรับมาเป็นบุตรบุญธรรม โดยควรติดต่อไปยังกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปพร้อมกันด้วย
ผู้ประสงค์ขอรับเด็กไทยเป็นบุตรบุญธรรมต้องยื่นแบบคำขอเด็กไทยเป็นบุตรบุญธรรมพร้อมกับคู่สมรส โดยต้องยื่นเอกสารดังรายการต่อไปนี้
เอกสารของฝ่ายที่จะยกเด็กให้ (บิดามารดาเด็ก หรือผู้ปกครองโดยชอบตามกฎหมาย)
เอกสารของฝ่ายเด็กที่จะเป็นบุตรบุญธรรม
ค. การนำส่งคำร้องขอพร้อมเอกสารประกอบ
หลังจากที่เตรียมเอกสารตามรายการข้างต้นเรียบร้อยแล้ว สามารถดำเนินการต่อไปได้ดังนี้
ขอให้สถานคุ้มครองเด็กและเยาวชนของรัฐ (Landesjugendamt) เป็นผู้ติดต่อกับกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เพื่อขอให้ดำเนินการพิจารณาอนุมัติ ตามที่อยู่ดังนี้
กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม (Child Adoption Centre)
255 ถนนราชวิถี
กรุงเทพมหานคร 10400
โทร. (+66) 2 354-7500, (+66) 2 354-7511
แฟกซ์ (+66) 2 247 9480
อีเมล: [email protected]
หรือ
ยื่นคำร้องพร้อมเอกสารประกอบด้วยตัวเองที่ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมตามที่อยู่ข้างต้น
ง. ขั้นตอนการดำเนินเรื่องในประเทศไทย
เมื่อเอกสารหลักฐานต่างๆ สมบูรณ์แล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่จะพิจารณาว่า ผู้ขอรับเด็กมีคุณสมบัติตามกฎหมายหรือไม่ หากพบว่ามีคุณสมบัติเหมาะสม มีฐานะความเป็นอยู่ดี มีอุปนิสัยดี ความประพฤติดี อาชีพรายได้ดี ฐานะของครอบครัวดี ตลอดจนสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจสมบูรณ์ เหมาะสมที่จะรับเด็กไปอุปการะเลี้ยงดูได้ ก็จะประมวลรายละเอียดเสนออธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พิจารณาก่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมพิจารณาอนุมัติคุณสมบัติผู้ขอรับเด็ก หากเป็นกรณีที่มอบเด็กให้กันเอง คณะกรรมการฯ จะพิจารณาเด็กควบคู่กันไปในคราวเดียวกันด้วย
กรณีขอรับเด็กกำพร้าของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เมื่อคณะกรรมการรับเด็กเป็นบุตรธรรมพิจารณาอนุมัติคุณสมบัติผู้ขอรับเด็กแล้ว คณะกรรมการคัดเลือกเด็กให้เป็นบุตรบุญธรรมจะพิจารณาคัดเลือกเด็กของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการให้แก่ผู้ขอรับตามบัญชีก่อนหลัง
กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการจะแจ้งประวัติเด็กพร้อมรูปถ่ายให้ผู้ขอรับพิจารณาผ่านหน่วยงานเยอรมันที่ติดต่อเรื่องการขอรับเด็กไทยเป็นบุตรบุญธรรมมา
เมื่อผู้ขอรับแจ้งตอบรับเด็กให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการทราบแล้ว เจ้าหน้าที่จะเสนอให้คณะกรรมการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมพิจารณาให้ผู้ขอรับรับเด็กไปทดลองเลี้ยงดูโดยขออนุญาตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก่อนนำเด็กออกไปนอกราชอาณาจักรเพื่อทดลองเลี้ยงดู
เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์อนุญาต กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการจะนัดหมายให้ผู้ขอรับเด็กมารับการสัมภาษณ์จากคณะกรรมการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมและรับเด็กไปทดลองเลี้ยงดูเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน โดยหน่วยงานที่ติดต่อเรื่องมา หรือ สถานทูต/สถานกงสุล จะทำการควบคุมการทดลองเลี้ยงดูและส่งรายงานผลการทดลองเลี้ยงดูมาให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ 2 เดือนต่อครั้ง เป็นระยะเวลา 6 เดือน
เมื่อทดลองเลี้ยงดูมาครบ 6 เดือน และมีรายงานผลการทดลองเลี้ยงดูครบ 3 ครั้ง ซึ่งหากว่าผลการทดลองเลี้ยงดูเป็นที่น่าพอใจ เด็กอาศัยกับครอบครัวของผู้ขอรับอย่างมีความสุข เจ้าหน้าที่จะสรุปรายงานเสนอต่อคณะกรรมการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม เพื่อพิจารณาอนุมัติให้ผู้ขอรับไปดำเนินการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมตามกฎหมายได้
ผู้ขอรับจะต้องไปดำเนินการขอจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม ณ สถานเอกอัครราชทูตฯ หรือ สถานกงสุลใหญ่ฯ ที่ผู้ขอรับเด็กมีภูมิลำเนาอยู่ โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการจะมีหนังสือขอความร่วมมือจากกระทรวงต่างประเทศผ่านกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมกับแจ้งให้หน่วยงานเยอรมันผู้ติดต่อเรื่องการขอรับเด็กไทยเป็นบุตรบุญธรรมมาและผู้ขอรับเด็กได้ทราบพร้อมกันนั้นด้วย
กรณีที่ผู้ขอรับเด็กอยู่ในประเทศไทย การจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมสามารถดำเนินการได้ที่สำนักงานเขต ที่ว่าการอำเภอ หรือ ที่ว่าการกิ่งอำเภอ ซึ่งเป็นการร้องขอจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมได้เช่นเดียวกับการขอบุตรบุญธรรมไทย
สถานเอกอัครราชทูตฯ หรือ สถานกงสุลใหญ่ฯ จะนำส่งสำเนาเอกสารทะเบียนการรับบุตรบุญธรรม (คร. 14) จำนวน 1 ชุด ให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการเพื่อเป็นหลักฐานแสดงว่าการดำเนินการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมของผู้ขอรับเด็กได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายบัญญัติไว้ทุกประการ
หากบิดามารดาบุญธรรมต้องการให้บุตรบุญธรรมมาใช้นามสกุลของตน หลังจากที่ได้ดำเนินการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมกับทางการไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถทำได้โดยนำหลักฐานการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมไปยื่นที่อำเภอที่เด็กมีชื่อในทะเบียนบ้าน เพื่อขอแก้ไขนามสกุลในทะเบียนบ้าน และ ขอคัดสำเนาทะเบียนบ้านที่มีนามสกุลตามบิดามารดาบุญธรรมไปขอเปลี่ยนนามสกุลในหนังสือเดินทางต่อไป
จ. สิทธิและหน้าที่ของบุตรบุญธรรม
บุตรบุญธรรมที่ได้มีการจดทะเบียนโดยถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดแล้ว มีสิทธิและหน้าที่ต่อบิดามารดาบุญธรรมดังนี้ คือ
มีฐานะอย่างเดียวกับบุตรชอบด้วยกฎหมายของบิดามารดาบุญธรรม คือ มีสิทธิได้รับการอุปการะเลี้ยงดู ส่งเสียให้ได้รับการศึกษา มีสิทธิได้ใช้นามสกุลของบิดามารดาบุญธรรม และมีสิทธิได้รับมรดกเหมือนบุตรชอบด้วยกฎหมาย
มีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาบุญธรรม ทำนองเดียวกับบุตรชอบด้วยกฎหมาย
ฉ. สิทธิและหน้าที่ของบิดามารดาบุญธรรม
บิดามารดาบุญธรรมมีสิทธิใช้อำนาจปกครองกับบุตรบุญธรรม ความสัมพันธ์ระหว่างบิดามารดาบุญธรรมกับบุตรบุญธรรมนั้น มีลักษณะคล้ายคลึงกับบิดามารดากับบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย เพราะฉะนั้นบุตรบุญธรรมจึงต้องอยู่ใต้อำนาจปกครองของบิดามารดาบุญธรรม คือ มีสิทธิกำหนดที่อยู่ของบุตรบุญธรรม ทำโทษบุตรบุญธรรมตามสมควรเพื่อว่ากล่าวสั่งสอน เป็นต้น
บิดามารดาบุญธรรมไม่มีสิทธิรับมรดกของบุตรบุญธรรมในฐานะที่เป็นทายาทโดยธรรม แต่สามารถรับมรดกในฐานะเป็นผู้รับพินัยกรรมแทน
บิดามารดาบุญธรรมมีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรบุญธรรมทำนองเดียวกับบิดามารดาซึ่งมีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูบุตรโดยชอบกฎหมาย
ช. การเลิกรับบุตรบุญธรรม
การเลิกรับบุตรบุญธรรม มีได้ 3 ประการคือ
การเลิกรับบุตรบุญธรรมโดยความตกลง เกิดจากความตกลงของผู้รับบุตรบุญธรรมกับบุตรบุญธรรมซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว จะตกลงกันเมื่อใดก็ได้ แต่จะสมบูรณ์ต่อเมื่อได้จดทะเบียนตามกฎหมายแล้ว
การเลิกเมื่อมีการสมรสกัน แม้ว่ากฎหมายจะห้ามผู้รับบุตรบุญธรรมสมรสกับบุตรบุญธรรมก็ตาม แต่เนื่องจากบุคคลทั้งสองไม่ได้มีความผูกพันทางสายโลหิต การสมรสโดยฝ่าฝืนเงื่อนไขดังกล่าวจึงไม่เสื่อมเสียหรือเป็นโมฆะแต่อย่างใด การสมรสดังกล่าวมีผลเป็นการยกเลิกการรับบุตรบุญธรรมตั้งแต่เวลาที่จดทะเบียนสมรสกัน โดยไม่ต้องจดทะเบียนเลิกรับบุตรบุญธรรมอีก
การเลิกรับบุตรบุญธรรมโดยคำสั่งศาล ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดสามารถนำคดีขึ้นฟ้องร้องต่อศาลเพื่อขอเลิกรับบุตรบุญธรรม โดยมีมูลเหตุตามที่กฎหมายกำหนด
ซ. กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ญ. หมายเหตุ
กรณีที่ท่านได้ขอรับเด็กไทยมาเป็นบุตรบุญธรรมโดยกฎหมายเยอรมัน (เช่น โดยคำอนุญาตของศาลเยอรมัน) ไม่ถือว่าเป็นการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมตามกฎหมายไทยด้วยแต่อย่างใด
วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์ (ยกเว้นวันหยุดสถานกงสุลใหญ่ฯ)
สำนักงาน : เวลา 09.00 - 17.00 น.
ฝ่ายกงสุล : เวลา 09.00 - 13.00 น. และ 14.00 - 15.00 น.
(โปรดตรวจสอบ เวลาให้บริการของแต่ละงานในฝ่ายกงสุล ที่หน้า "ติดต่อเรา")